จากสถานการณ์ปัจจุบันเราจะเห็นแนวโน้มการเกิดวิกฤตการณ์ต่างๆ อย่างชัดเจนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภาวะโลกเดือด ความแปรปรวนของสภาพอากาศ การแพร่ระบาดของโรคติดต่อ รวมไปถึงความผันผวนของเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งล้วนแต่สร้างผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความเป็นอยู่ของมนุษย์ ทำให้หลายๆ ภาคส่วนต้องให้ความร่วมมือในการลดผลกระทบเชิงลบต่างๆ เพื่อให้มนุษย์ยังคงสามารถดำรงชีวิตได้ดีและยั่งยืน
ซึ่งเราคงต้องยอมรับว่าภาคอุตสาหกรรม คือหน่วยใหญ่ที่สุดที่สร้างผลกระทบอย่างรุนแรงกับโลกจากการผลิตสินค้า และบริการต่างๆ มาตอบสนองความต้องการของมนุษย์ในโลกทุนนิยม ดังนั้นการเลือกลงทุนในกิจการใดๆ จึงถือเป็นการสนับสนุนและเป็นกำลังสำคัญในการเปลี่ยนแปลงการดำเนินธุรกิจให้คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมภิบาลมากขึ้น นี่จึงทำให้หลักการลงทุนแบบ ESG เริ่มเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในใจนักลงทุนหลายๆ คน
หุ้น ESG คือแนวทางการลงทุนที่คำนึงถึงการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยให้ความสำคัญกับ 3 ปัจจัยสำคัญ ดังนี้
เป็นหุ้นจากบริษัทจดทะเบียนที่ถูกเรียกรวมๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เน้นไปที่การให้ความสำคัญกับ 3 ปัจจัยหลักที่กล่าวไปข้างต้น แต่หากพูดถึงตลาดหุ้นไทยนั้น จะมีกลุ่มหุ้นที่เรียกว่า หุ้น THSI (Thailand Sustainability Investment)
หุ้น THSI คือรายชื่อหุ้น ESG ของบริษัทจดทะเบียนในไทยที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกให้เป็นหุ้นยั่งยืน ตั้งแต่ปี 2558 โดยต้องมีการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม มีความรับผิดชอบต่อสังคม และมีการบริหารงานตามหลักบรรษัทภิบาล ได้รับผลคะแนนอย่างน้อย 50% ในแต่ละด้านของ ESG หรือได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของ Dow Jones Sustainability Indices (DJSJ) โดยจะมีการทบทวนการประเมินในทุกปี มีการเปลี่ยนแปลงทั้งในระดับสากลและภายในประเทศ ทำให้กลุ่มหุ้น THSI มีความน่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนตามแนวทางของการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Investment)
หุ้น THSI จากบริษัทจดทะเบียนที่ถูกคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน จะมีภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาของนักลงทุน เชื่อว่ามีศักยภาพในการรับมือกับความเสี่ยงใหม่ๆ รวมไปถึงมีแนวทางบริหารจัดการที่ชัดเจน สอดคล้องกับแนวคิดการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว ทำให้นักลงทุนเห็นถึงโอกาสสร้างผลกำไรท่ามกลางความผันผวนของโลกในปัจจุบัน
SRI (Sustainable and Responsible Investing) คือแนวทางการลงทุนที่เน้นไปที่กลุ่ม หุ้น ESG จากบริษัทจดทะเบียนที่มีความรับผิดชอบ และสร้างผลกระทบที่ดีในระยะยาว ลดการลงทุนกับบริษัทที่สร้างผลกระทบในเชิงลบ และยังไม่มีแผนการดำเนินการที่ชัดเจนเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของกระแสโลก โดยจะมีด้วยกัน 4 รูปแบบ ดังนี้
- Best in class : เป็นการคัดเลือกหุ้นยั่งยืนที่จะนำเงินไปลงทุนโดยอ้างอิงตาม SRI Rating ยิ่งมี SRI Rating สูง ยิ่งหมายถึงบริษัทมีแนวโน้มที่จะดำเนินการตามหลัก ESG ได้เป็นอย่างดี
- Exclusion/Negative Screening : เลือกลงทุนโดยการตัดบริษัทที่ส่งผลกระทบทางลบออก เช่น เป็นบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ทำร้ายโลก มีการจัดการด้านแรงงานที่ไม่เหมาะสม เป็นต้น
- Norms - based Screening : เลือกลงทุนโดยยึดตามหลักสากล เช่น Global Compact, Human Rights หรือ Labor Standard
- Integration : เป็นแนวทางที่ได้รับความนิยม เหมาะกับการลงทุนเชิงปริมาณ โดยนำ SRI Rating มาประกอบการตัดสินใจควบคู่ไปกับการวิเคราะห์ศักยภาพของบริษัทและประเมินสภาวะเศรษฐกิจ
อ่านมาถึงบรรทัดนี้ หลายๆ ท่านคงมีความสนใจในหุ้น THSI หรือหุ้นยั่งยืนกันบ้างไม่มากก็น้อย จากข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยรายงานว่ามี หุ้น ESG จากบริษัทจดทะเบียนที่ผ่านการคัดเลือก 153 บริษัท และ mai 13 บริษัท โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีจำนวนมากที่สุด 3 อันดับแรก มาจาก กลุ่มบริการ 33 บริษัท กลุ่มทรัพยากร 27 บริษัท และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง 27 บริษัท หากท่านใดสนใจลงทุนสามารถเช็กรายชื่อหุ้น THSI ในไทยโดยแบ่งตามกลุ่มก่อนตัดสินใจลงทุนได้
หุ้น NER จากบริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) เองก็ได้รับการประเมินในด้าน ESG ที่ดี ติดอันดับ “ESG100” และเป็นหนึ่งในหุ้นยั่งยืน (NER) ที่น่าจับตามองสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรม Agro & Food Industry
นอกจากนี้บมจ.นอร์ทอีส รับเบอร์ หรือ NER ผู้ผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติ มีเจตนารมณ์ในการพัฒนาอย่างยั่งยืน ได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ในบริษัทกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 5 ปีต่อเนื่อง มีผลประกอบการของบริษัทและการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลที่โดดเด่น จากการจัดอันดับของสถาบันไทยพัฒน์
สามารถศึกษาข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนเพิ่มเติมเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุนได้ที่นี่